USA - New York City

English version currently unavailable. We're still in the process of translating every article.

นิวยอร์ค ซิตี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งความวุ่นวาย ก็วุ่นวายสมชื่อจริงๆเพราะเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหล ผู้คนเพ่นพ่านตลอดทั้งวันทั้งคืน เนื่องจากเรามาเป็นออแพร์ที่นิวเจอร์ซี่ ซึ่งติดกับนิวยอร์ค ใช้เวลาเดินทางประมาณ1ชม.นิดๆก็ถึง ด้วยความที่นิวเจอร์ซี่ไม่ค่อยมีอะไรทำเท่าไหร่ พอวันหยุดก็จะนัดเพื่อนเข้านิวยอร์คค่ะ ออกจากบ้านครั้งนึงถือว่าเปลืองมาก เพราะค่าครองชีพที่นี่ค่อนข้างสูง แล้วเงินเดือนออแพร์ก็น้อยนิด ค่ารถบัสจากนิวเจอร์ซี่เข้านิวยอร์คไปกลับก็ประมาณ 30 กว่าเหรียญ ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณพันกว่าบาท บางครั้งก็ไปเช้าเย็นกลับ หรือถ้าวันไหนไปค้างก็จะไปขออาศัยนอนกับเพื่อนออแพร์ในนิวยอร์ค เลยไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องที่พัก เสียแต่ค่าเดินทางไปบ้านเพื่อนเท่านั้น 

ส่วนเรื่องอาหารที่นี่ถ้าเข้าร้านถือว่าแพงมากสำหรับคนไทยเรา ข้าวจานนึงขั้นต่ำ10เหรียญ ไม่รวมทิปที่ต้องจ่ายต่างหาก รวมๆแล้วก็ประมาน 4-5ร้อยบาทไทย ต่อมื้อเล็กๆธรรมดา ครั้งนึงเคยไปกินร้านอาหารไทยกับเพื่อนอีก2คน สั่งอาหารมา3อย่าง มีส้มตำ ต้มยำ และผัดกระเพรา (ที่ไม่เหมือนผัดกะเพราเลยสักนิด เพราะที่อเมกาไม่มีใบกระเพราะเลยใช้ใบโหระพาแทน) และข้าวอีกคนละจาน ชานมคนละแก้ว หารกัน3คน ตกคนละ20เหรียญ เป็นเงิน700บาทไทย อาหารมื้อนั้นรวมแล้วเป็นเงินสองพันกว่าบาท เจ็บค่ะ ทำเองยังอร่อยกว่าอีก หลังจากนั้นมาก็ไม่เคยคิดจะเข้าร้านอาหารไทยในอเมริกาอีกเลย 

คนที่นี่ส่วนมากจะนั่ง ซับเวย์กัน เหมือนรถไฟฟ้าบ้านเรานี่แหละค่ะ ค่าโดยสารเริ่มต้นครั้งละ2เหรียญ ก็ตกประมาณ70บาทไทย อันนี้คือถือว่าเป็นการเดินทางที่ประหยัดสุดของที่นี่แล้ว (บ้านเราสถานีที่แพงสุด59บาทยังบ่นเลย) ส่วนตัวเรากินเที่ยวไม่ค่อยเยอะค่ะ เพราะทำงานมาเริ่มเห็นเงิน เลยอยากเก็บตังมากกว่า จะใช้จ่ายแต่ที่จำเป็นเท่านั้น มีช็อปบ้างแต่ก็พวกของเซลหรือลดราคา 55+ แอบงกนิดนึง 

บรรยากาศตอนกลางวันก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ สถาปัตยกรรมที่สวยงามเก่าแก่สไตล์ฝรั่งแบบในหนัง สวยและคลาสสิคมากจริงๆ แต่เห็นชิลๆแบบนี้ที่จริงคือหนาวมาก เพราะเป็นช่วงหน้าหนาวพอดี อากาศประมาณ ติด0 -1 มีหิมะตกอ่อนๆ บางจุดจะมีแดดส่องหน่อยๆแต่ด้วยความที่มีตึกสูงเยอะจึงบังแสงอาทิตย์ซะหมด 

ในทามสแคว จะมีจุดที่ให้คนไปยืนแล้วฉายขึ้นจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ โฆษณาอะไรบางอย่างถือว่าเป็นการตลาดที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะคนที่นี่ให้ความสนใจและตื่นเต้นกันมาก เราก็แอบเข้าไปยืนบนนั้นแล้วชูหนังสือเล่มที่เราถือไปด้วย และถ่ายรูปมาเช่นกัน จึงออกมาเป็นรูปนี้ชะนี้แล 

ช่วงคริสมาสต์ ปีใหม่ จะจัดตกแต่งประดับประดาไฟทั่วเมือง สวยงามสมศักดิ์ศรีความเป็นนิวยอร์ค ผู้คนมากมายแห่กันมาถ่ายรูปจนเต็มไปหมด   

โฮสพาเด็กๆมาดูบัลเลย์โชว์ เป็นการแสดงเกี่ยวกับคริสมาสเข้ากับเทศกาล เป็นครั้งแรกที่เราได้ดูอะไรแบบนี้ สวยงามอลังการงานสร้างจริงๆ ปกติไม่คิดจะดูเพราะค่าตั๋วแพง(บอกแล้วว่างก) ประมาณคนละ 60 เหรียญถ้าจำไม่ผิด ระยะเวลาโชว์ประมาณ1ชั่วโมง ดูไปยาวๆเพลิน เด็กๆก็นั่งดูกันอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อยดี ไม่เกี้ยวกราดเหมือนลูกชาวบ้านให้หนักใจ เป็นบุญของอิพี่เลี้ยงคนนี้จริงๆ 

ติดกับทามสแคว์ ก็เป็นเซลทรัลปาร์ค ข้างๆก็จะมีลานไอซ์สเก็ตขนาดใหญ่ คนก็เยอะมาก ส่วนตัวเป็นคนชอบเล่นไอซ์สเก็ตอยู่แล้วเห็นแล้วอยากจัดสักรอบ แต่ด้วยความที่วันนั้นมีเวลาไม่มากนักเลยอดค่ะ แต่คนเยอะไปก็ไม่ค่อยน่าเล่นอยู่ดี 

ภายในเซนทรัลปาร์ค เป็นที่ถ่ายทำหนังหลายๆเรื่อง ด้วยความที่เราไม่ใช่แฟนหนังแฟนละครเท่าไหร่ ถ้าเพื่อนไม่บอกก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ 

หนึ่งในสถานที่สำคัญในเมืองนิวยอร์คซิตี้ก็สะพานแห่งนี้แหละค่ะ สะพานบรูคลิน สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1883 เคยเป็นสะพานแขวนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสะพานแขวนที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีความยาว 1825 เมตร ทอดข้ามแม่น้ำอีสต์ เชื่อมระหว่างนิวยอร์กซิตี แมนฮัตตัน และบรูคลิน (ข้อมูลจากวิกิพิเดีย)  

และภาพสุดท้ายที่เลือกมา เป็นโบส์ถที่เดินผ่านแล้วต้องหันมาถ่ายรูป ไม่รู้ว่าชื่ออะไรและไม่ได้เข้าไปข้างใน แค่ผ่านเฉยๆ ยอมรับว่าสถาปัตยกรรมของที่นี่คือสวยจริงๆ **รูปจากโทรศัพท์มือถือ samsung note3 (กล้องสด ไม่มีการปรับแต่งอะไรใดๆทั้งสิ้น)