India - Srinagar (Himalaya)
English version currently unavailable. We're still in the process of translating every article.
ต่อจากโพสที่แล้วที่เมือง New Delhi ค่ะ ซึ่งเราซื้อทัวร์จากพนักงานโฮสเทลไปหิมาลัย 4 วัน 3 คืน ในราคาคนละ 12,000 รูปี (หรือประมาณ 6,000 บาทไทย/ต่อคน) รวมตั๋วเครื่องบิน รถรับส่งจากสนามบิน ที่พัก 3 คืน และอาหารวันละ 3 มื้อ (ที่จริงเราจะกินกันแค่ 2 มื้อ เช้า-เย็น เพราะกลางวันไม่เคยได้อยู่ห้องค่ะ)
ระหว่างอยู่บนเครื่องบิน บรรยากาศของจริงคือสวยกว่าในรูปมาก เทือกเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และมีก้อนเมฆลอยไปลอยมา ฟรุ้งๆ เว่อวังอลังการ
พอมาถึงสนามบิน Srinagar ก็จะมีรถจากทางโรงแรมมารอรับอยู่แล้ว แต่ก็จะมีพวกผู้หวังดีมาคอยถือกระเป๋าให้ มาคอยเทคแคร์พาไปขึ้นรถแท็กซี่ ไม่ใช่ว่าบริการฟรี แต่หวังทิปนั่นเองค่ะ เจอแบบนี้ปฏิเสธอย่างเดียว
บรรยากาศข้างทางตอนนั่งรถไปยังที่พัก ความรู้สึกแรกที่มาถึงที่นี่คือมันไม่เหมือนเมืองอินเดียเลย บรรยากาศดีกว่าในเมืองมากๆ บ้านเมืองก็สะอาดกว่า อากาศเย็นและสดชื่นกว่า เหมือนมาคนละประเทศ รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ลงรถมาก็ไปขึ้นเรือต่อ ลักษณะเรือก็จะประมาณนี้ค่ะ เป็นเรือลำเล็กๆนั่งได้แค่ 2-3 คน เห็นแบบนี้ของจริงบรรยากาศโรแมนติกมากๆ
ระหว่างนั่งเรือเล็กไปยังที่พักก็จะเห็นเรือขนาดกลางๆเต็มไปหมด ซึ่งเรือพวกนี้มันคือโรงแรมนั่นเองค่ะ เรียกว่า house boat ซึ่งเราก็จะมาพักกันในที่แบบนี้เช่นกัน เป็นครั้งแรกเลยที่จะได้นอนบนเรือบ้านแบบนี้ มีความตื่นเต้นอีกแล้วว
มาถึงที่พักบนเรือจะมีห้องพัก 3 ห้อง มีห้องรับแขก ห้องทานอาหาร พร้อมอ่างอาบน้ำ แถมมีผ้าห่มฮิตเตอร์ให้ด้วย ลุงที่ดูแลที่นี่บอกว่าปกติถ้าไม่ได้จองทริปมา เค้าคิดกันคืนละ 6000 รูปี หรือ 3000 บาทไทย ราคานี่พอกับโรงแรมห้าดาวเลยค่า ซึ่งมันค่อยข้างจะโอเว่อร์เกินไปหน่อยเพราะมันก็ไม่ได้หรูหราขนาดนั้นเน้อ แอบมาเช็คในเว็บราคาไม่เกินหนึ่งพันบาท หลอกดาวอีกแล้ว เท่านั้นไม่พอตกเย็นมาก็จะได้ยินเสียงละมาดเป็นชั่วโมง ส่วนตัวไม่ได้ลบหลู่แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ความรู้สึกแบบมันจะหลอนๆหน่อย
ลุงที่ดูแลที่พักเอาเสื้อกันหนาวแบบชาวอินเดียมาให้เรากับแฟนใส่ บางทีเราก็แยกไม่ออกว่าเค้าหวังดีจริงๆหรือหวังทิป และทุกครั้งที่เจอลุงก็จะชอบขอให้แฟนเราเขียนรีวิวให้ พูดบ่อยมากจนแฟนเราลำคาญ ปกตินางก็จะเขียนรีวิวให้อยู่แล้วไม่ต้องขอก็เขียนค่า แต่ดีไม่ดีก็ว่าไปตามความจริงนะจ้ะ
นอกจากนั้นเจ้าของที่พักก็แนะนำให้นั่งเรือชมรอบอ่าว เป็นกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เค้าทำกัน โดยมีค่าใช้จ่าย 1,000 รูปี หรือ 500 บาท จะมีคนพายเรือให้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เราก็เลยตกลงค่ะ ซึ่งบนเรือก็จะมีแค่เรากับแฟนและคนพายเรือเท่านั้น บรรยากาศดีมากๆแต่แอบหนาวไปหน่อย หมอกลงจนแทบไม่เห็นภูเขาเลย
ก่อนมาลุงที่ดูแลที่พักบอกว่า ระหว่างทางก็จะมีคนพายเรือเข้ามาขายของก็ไม่ต้องไปซื้อ ถ้าอยากได้อะไรเดี๋ยวแกหามาให้ และแล้วก็จริงค่ะ มีคนเข้ามาขายของตลอดทางจนความส่วนตัวหายไป ต้องคอยปฏิเสธตลอด เหมือนตลาดน้ำดีๆนี่เอง
ที่ลุงไม่ให้ซื้อของกับคนอื่นเพราะลุงจะให้ซื้อกับพรรคพวกตัวเองนั่นเอง และแล้วลุงแกก็พาคนเข้ามาขายของถึงบนเรือที่พัก เซอวิสอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันหนาว หมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ เราก็เกรงใจมาก แต่เรามีทุกอย่างแล้วไม่ได้ต้องการอะไรเพิ่ม แต่คุณแฟนยังไม่มีเสื้อกันหนาวก็เลยจัดมา 1 ตัว รวมทั้งถุงมือและหมวกอีก 1 ใบครบเซ็ต ความรู้สึกเหมือนถูกมัดมือชกยังไงไม่รู้ หอบของมาขายถึงหน้าห้องนอนเลยทีเดียว พอเห็นว่าคุณแฟนเราซื้อ ก็พาพวกมาขายอย่างอื่นอีกจ้า มองบนค่ะเพลีย
บรรยากาศรอบๆอ่าวก็จะประมาณนี้ค่ะ นอกจากจะมีคนพายเรือขายของแล้ว ยังมีร้านขายของข้างทางบ้างปะปราย ส่วนมากเป็นเสื้อผ้า ของชำ ของฝาก ของแฮนด์เมค บลาๆ
วันรุ่งขึ้นเราก็เหมารถจากทางที่พักขึ้นไปบนเขาหิมาลัย ใช้ระยะเวลาเดินทางไป-กลับ ประมาณ 5-6 ชั่วโมง ตกลงกันได้ในราคา 4000 รูปี หรือ 2000 บาท ขาดตัว (ไม่รวมทิปคนขับรถที่ก็ต้องให้เป็นทำเนียม ระบุมาด้วยว่าประมาณ 400-500 รูปี) นอกนั้นก็ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรอีกแล้ว ไอเราก็คิดว่าจบค่ะ..
ขึ้นไปถึงบนเขา พอจอดรถปั๊บ คนขับรถก็บอกว่ามีคนจะคุยด้วย (เหมือนเตี๊ยมกันมา) แล้วก็มีคนเข้ามาเสนอให้ขี่ม้าขึ้นไปชมวิวบนเขาอีกในเราคาคนละ 800 รูปี มาถึงขนาดนี้แล้วก็อยากอยู่ แต่เราเหลือตังติดตัวไปกันแค่ 1000 รูปี เพราะไม่คิดว่าจะต้องมาจ่ายอะไรอีกแล้ว ไม่ได้ตั้งใจจะต่อราคาแต่อย่างใด แต่มีไม่พอจริงๆ สุดท้ายเจ้าของม้าก็เลยยอมลดให้ 2 คน 1000 เดียว จริงๆเราก็อยากให้เพิ่มนะ เพราะเข้าใจว่าม้าเดินขึ้นเขาไกลอยู่ แถมเป็นหิมะอีก รู้สึกแย่นิดนึงที่ใช้แรงงานม้า แต่ให้เดินเองก็คงไม่ไหวเหมือนกันค่ะ ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ขี่ม้าแล้วกันเนาะ คนคุมม้าก็เทคแคร์เราดีมาก ไม่บ่นสักคำ เป็นครั้งแรกที่อยากให้ทิปมากแต่เราไม่มีตังกันแล้วจริงๆ
ขอเล่าถึงสาเหตุของการมาหิมาลัยในครั้งนี้นิดนึงค่ะ คือตอนไปเชียงใหม่กับคุณแฟนคราวที่แล้ว นางก็ทำแต่งานไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย จนมาถึงวันสุดท้ายในเชียงใหม่ อินี่ก็เลยบ่นค่ะ ไหนความเชียงใหม่ของชั้น ไหนความป่าเขายอดดอย คุณแฟนก็เลยบอกว่า โอเค งั้นคืนนี้จะพาขี้นดอยสุเทพ ถ้าไม่ได้ไปจะพาไปเขาหิมาลัยแทน สรุปนางก็พาไปดอยสุเทพจริงๆค่ะ แต่พอไปแล้วดอยปิดเพราะทหารฝึกอะไรสักอย่าง เลยไม่ได้ขึ้น ส่วนตัวเราก็ไม่ได้จริงจังไรมากคิดว่าแฟนพูดเล่น แต่ในที่สุด นางก็พามาที่นี่จริงๆ วู้ววว
บรรยากาศรอบๆก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพนไปหมด สวยมากๆ อากาศก็หนาวมากเช่นกัน อยากอยู่นานๆกว่านี้แต่ก็ทนหนาวไม่ไหว ได้แค่ถ่ายๆรูปแล้วก็กลับ
จบทริปหิมาลัย ถือว่าประทับใจในบรรยากาศแต่ก็ไม่ค่อยประทับใจในคนอินเดียเท่าไหร่ จากนั้นก็นั่งเครื่องกลับไปยังเมือง New Delhi และแพลนที่จะไปเมือง agra ต่อเพื่อชมทัชมาฮาล ติดตามได้ในตอนต่อไปจ้า
สรุปค่าใช้จ่าย (2 คน / 4 วัน 3 คืน )
- ทริปตั๋วเครื่องบิน รวมอาหารและที่พัก = 12,000 บาท
- ค่านั่งเรือรอบอ่าว = 500 บาท
- ค่ารถขึ้นไปบนเขาหิมาลัย (ไป-กลับ) 2,000 + ทิปคนขับรถ 250 = 2,250 บาท
- ค่าขี่ม้า 2 คน = 500 บาท
รวม 15,250 บาท
</p>
**รูปจากกล้อง sony a5100 (กล้องสด ไม่มีการปรับแต่งอะไรใดๆทั้งสิ้น)