India - Agra (Tajmahal)
This post is also in English. You can toggle the language by clicking EN/TH on the top right.
หลังจากจบทริปหิมาลัย ที่เมือง srinagar เราก็กลับไปพักกันที่เมือง New Delhi อีกครั้ง เพื่อที่วันรุ่งขึ้นจะไปชมทัชมาฮาลกันที่เมือง Agra หรือ อัครา แต่เมืองนี้ไม่มีเครื่องบินผ่านก็เลยต้องกลับเข้าเมืองมาต่อรถไปอีกที ในที่สุดเรากับคุณแฟนก็ตัดสินใจนั่งรถไฟไปกันเพราะคิดว่าถูกกว่าวิธีอื่นมาก เรามีเวลาเหลือ 2 วันก่อนที่จะกลับกรุงเทพ ก็เลยคิดว่าจะไปค้างที่อัคราสักคืนจะได้ไม่เหนื่อยมากค่ะ
เราเช็คเอ้าออกจากโรงแรมที่นิวเดลีประมาณ 10 โมงนิดๆ และนั่งอูเบอร์ไปยังสถานีรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบชั่วโมง พอไปถึงสถานีรถไฟ ก็ได้สัมผัสถึงความอินเดียที่แท้ทรู เราเหมือนเป็นตัวประหลาด มีผู้คนเข้ามารุมล้อมให้ความช่วยเหลือมากมาย แท็กซี่บ้าง สามล้อบ้าง มีคนหลอกขายตั๋วรถไฟบ้าง วุ่นวายกันไปหมด
เนื่องจากที่ขายตั๋วทั่วไปจะขายให้แต่เฉพาะคนอินเดียเท่านั้น เราต้องไปที่ฝั่งที่เป็น international tourist ซึ่งเดินวนหากันอยู่นาน ถามใครก็จะหลอกให้ใช้บริการนั่งรถโดยสารของตนเองไป เราก็ไม่เชื่อเพราะ GPS บอกว่ามันอยู่ในตึกนั่นแหละ จนในที่สุดก็หาเจอ เราไปถึงที่ขายตั๋ว ตั้งแต่เวลา 12.30 น. แต่กว่าจะได้จองตั๋วปาก็ไปบ่ายสอง ทั้งๆที่มีแค่ประมาณ 10 คิว แต่ใช้เวลานานเป็นชั่วโมง เรานี่หงุดหงิดมากเพราะเข้าใจผิดว่ารถไฟรอบที่จะถึงคือรอบบ่ายสองเลยกลัวจะขึ้นรถไฟไม่ทัน แต่ที่จริงคือรถไฟมีรอบ 5 โมง โอเค รอก็รอ ไหนๆก็มาขนาดนี้ละ โดยจ่ายค่าตั๋วไปในราคา 500 กว่ารูปี หรือประมาณ 200-300 บาท (จริงๆมีถูกและแพงกว่านี้แต่เราเลือกในราคากลางๆค่ะ)
ระหว่างที่นั่งรอรถไฟข้างชานชลา คุณแฟนก็ยังจะเปิดคอมออกมาทำงาน มีเด็กๆเข้ามามุงดูให้ความสนใจตื่นเต้นกันเหมือนเป็นของแปลก มีคนเดินขายของผ่านไปมา คนรอรถไฟจำนวนมาก คนกวาดขยะบ้างอะไรบ้าง จริงๆก็รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ค่ะ ต้องคอยระแวงระวังทรัพย์สินอยู่ตลอดเวลา แต่สรุปก็รอดมาได้อย่างปลอดภัย
ในที่สุดก็ได้ขึ้นรถไฟ อารมณ์ก็เหมือนรถไฟไทยบ้านเรา ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมงกว่า จากนิวเดลีไปยังเมืองอัครา ดีเลย์นิดหน่อย กว่าจะถึงก็สี่ทุ่มกว่าๆ สรุปว่าเสียเวลาทั้งวันไปกับการเดินทางด้วยรถไฟจ้า
มาถึงสถานีปลายทาง Agra ก็จะเห็นลิงเต็มสถานทีไปหมด คือเยอะมาก มากันทั้งหมู่บ้าน น่ารักดี สักพักก็มีคนเข้ามาให้ความช่วยเหลืออีกแล้วค่ะ จะหารถให้นั่นนี่ เราก็เลยปฏิเสธไป จากนั้นเราก็เดินไปเรียกแท็กซี่จากเอเจนซี่ของสถานนีรถไฟ รู้สึกปลอดภัยสุด โดยจ่ายไปในราคา 270 รูปี หรือ ร้อยกว่าบาท จากสถานีรถไฟไปยังที่พัก รถติดนิดหน่อย ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
เนื่องจากอ่านรีวิวในพันทิป มีคอมเม้นนึงแนะนำให้ไปพักที่โรงแรมชื่อ Hotel Taj Resorts เราก็เลยจองห้องพักผ่านทาง https://www.agoda.com/partners/partnersearch.aspx?cid=1798016&pcs=1&hl=th&city=9641 ในราคา 1800 แต่คุณแฟนได้ส่วนลดอะไรสักอย่างมา เลยจ่ายเพียง 1300 บาท เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่ถือว่าดีที่สุดแล้วตั้งแต่ที่พักในอินเดียมา สามารถดูวิวทัชมาฮาลได้จากบนดาดฟ้า แต่เราไปถึงตอนดึกแล้วมองไม่เห็นวิว เลยได้แต่ดินเนอร์บนดาดฟ้าแทน ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
และแล้วเช้าวันถัดมาก็ถึงเวลาไปชมทัชมาฮาลกันค่ะ โดยนั่งสามล้อจากที่พักไปในราคา 50 รูปี หรือ 25 บาท ตอนแรกคิดว่า เห้ย ถูกมาก แต่ที่จริงคือใกล้มาก แบบเดินไปก็ได้มั้ง lol พอไปถึง ก็จะมีไกด์มาเสนอตัวพาเที่ยวชมทัชมาฮาล ในราคา 350 รูปี เป็นเวลา 1 ชั่วโมง คุณแฟนเราก็คิดซะว่าเสียแค่ไม่กี่บาทเพื่อเป็นการตัดปัญหากันคนอื่นมารบกวนแถมได้ความรู้ก็เลยตกลงจ้างไกด์ค่ะ นอกจากนี้ยังมีค่าเข้าชมทัชมาฮาลอีกในราคา 530 รูปี (สำหรับคนไทยหรือเอเชีย) และ 1000 รูปี (สำหรับต่างชาติ) น่าจะเหมือนเป็นค่าบำรุงสถานที่ ซึ่งจะแถมถุงผ้าหุ้มรองเท้าให้ 1 คู่ และน้ำอีก 1 ขวดจ้า
มาต่อแถวเข้าทัชมาฮาลกันค่ะ คนค่อนข้างเยอะพอสมควรถึงแม้ว่าจะเป็นวันธรรมดา มีตรวจกระเป๋าก่อนเข้าอย่างละเอียด ห้ามนำเครื่องสำอางและของมีคมทุกชนิดเข้าไปค่ะ
พอเข้ามาถึงก็จะเห็นประตูทางเข้าใหญ่ๆแบบนี้ค่ะ พี่ไกด์ก็พูดๆอธิบายไป ด้วยความที่ไกด์พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดีย เราก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง บางทีก็ตัองให้แฟนแปลอังกฤษเป็นอังกฤษให้อีกที
พี่ไกด์บอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังทำความสะอาดทัชมาฮาลพอดี และเป็นการทำความสะอาดครั้งแรกตั้งแต่สร้างมา จะเห็นได้ว่าส่วนที่ทำความสะอาดแล้วจะเป็นสีขาว และส่วนที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดก็จะออกเหลืองๆหน่อย
มาดูประวัติทัชมาฮาลกันบ้างค่ะ ทัชมาฮาล..สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ เจ้าชายขุร์รัม ชึ่งต่อมาคือสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน พระราชสมภพในปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) พระบิดา คือ สมเด็จพระจักรพรรดิชะฮันคีร์ จักรพรรดิองค์ที่สี่แห่งราชวงศ์โมกุล ตามตำนานกล่าวว่า พระองค์ได้พบกับอรชุมันท์ พานุ เพคุม ธิดาของรัฐมนตรี เมื่อพระองค์มีพระชนมายุ 14 พรรษา พระองค์ทรงหลงใหลและหลงรักนาง เจ้าชายขุร์รัมจึงซื้อเพชรด้วยเงิน 10,000 รูปีและบอกแก่พระบิดาของพระองค์ว่าพระองค์มีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับบุตรีของรัฐมนตรี พิธีเสกสมรสถูกจัดขึ้นหลังจากนั้น 5 ปี เมื่อพ.ศ. 2155 (ค.ศ. 1612) จากนั้นมาทั้งสองก็มิเคยอยู่ห่างกันอีกเลย
หลังจากที่สมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน ขึ้นครองราชบัลลังก์ในปี พ.ศ. 2171 พระองค์มอบความไว้วางใจแก่ อรชุมันท์ พานุ เพคุม และเรียกนางว่า มุมตัซ มาฮาล “อัญมณีแห่งราชวัง” พระมเหสีติดตามพระองค์ แม้แต่ในสนามรบ แนะนำพระองค์ในเรื่องราชการของประเทศ และพระองค์ซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระมเหสียิ่งนัก ครั้นในปี พ.ศ. 2174 (ค.ศ. 1631) พระมเหสีมุมตัซสิ้นพระชนม์ หลังจากให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 การสิ้นพระชนม์ของพระมเหสีทำให้สมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันโศกเศร้าอยู่ถึงสองทศวรรษ ราชสมบัติส่วนใหญ่สูญเสียไปเพื่อการสร้างอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์
พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระองค์ถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างพระมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล
ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของ…ทาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องแจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้ ส่วนหัวของทัชมาฮาลมีลักษณะโดมที่เรียกว่าโอเนียนโดม (ข้อมูลจากวิกิพิเดีย)
ข้างในไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปและถ้าจะใส่รองเท้าเข้าไปก็ต้องมีที่หุ้มรองเท้า ซึ่งแจกให้ตั้งแต่ตอนที่ซื้อบัตรผ่านประตูเข้ามานั่นแหละค่ะ
ไม่แน่ใจว่าเราแต่งตัวประหลาดหรือยังไง มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปหลายคนมาก มาเป็นครอบครัวเลยก็มี นี่ไม่ได้คิดว่าตัวเองสวยนะ เพราะหน้าสดไม่ได้แต่งหน้าไปเลยไม่กล้ามั่นหน้าจ้า แต่เพราะคนคงจะเห็นเราเป็นต่างชาติ หรือเพราะเราคงจะแต่งตัวแปลกกว่าชาวบ้านมากกว่า lol
ชมทัชมาฮาลเสร็จก็บ่ายกว่าๆแล้วค่ะ ไม่มีเวลาให้ไปที่อื่นต่อ เพราะวันนี้เป็นวันที่เราต้องบินกลับกรุงเทพตอน 3 ทุ่ม ตอนแรกว่าจะนั่งรถไฟไปกลับ เซฟค่าใช้จ่าย แต่จากที่ลองขามาแล้วใช้เวลาเป็นวัน ซึ่งเราต้องถึงสนามบินก่อน 1 ทุ่ม ไม่ทันแน่ๆ สรุปก็ต้องจ้างแท็กซี่ให้ไปส่งอยู่ดี รู้สึกคิดผิดมากก น่าจะเลือกมาแท็กซี่ตั้งแต่แรกก็จบ แทนที่จะได้เซฟค่าใช้จ่ายกลับต้องจ่ายแพงไปอีก ค่าแท็กซี่ขากลับขาเดียวก็พอกับไปกลับ เพราะเค้าตีเป็น 2 เที่ยวอยู่ดี ต่อแล้วต่ออีกได้ราคามา 4500 รูปี แต่ก็รวมค่าทางด่วนแล้วอีกประมาณ 4-5 ต่อ
ขณะนั่งรถแท็กซี่จากเมืองอัคราไปสนามบินที่เมืองนิวเดลี ระหว่างรถติดอยู่ก็จะมีคนมาเคาะกระจกรถขอตัง เป็นคนแก่บ้าง เด็กบ้าง อุ้มลูกมาบ้าง ถ้าไม่ยอมให้ก็ไม่ไป สงสารก็สงสาร แต่อย่าให้นะคะ เพราะพวกเขาจะยกพวกเข้ามาเลย และทางไล่ที่ดีที่สุดก็คือ ยกกล้องขึ้นมาทำท่าจะถ่ายรูป เท่านั้นแหละแยกย้ายทันทีจ้า
จบทริปแล้วค่า ถือว่าเป็นการเดินทางที่ทรหดมากครั้งนึงเลยก็ว่าได้เพียงเพราะแค่จะไปชมเจ้า “ทัชมาฮาล” ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัสจรรย์ของโลก ยอมรับว่าสวยจริงค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยคุ้มถ้าจะมาดูแค่ทัชมาฮาลอย่างเดียว จริงๆยังมีอีกหลายที่ใกล้ๆกันที่น่าสนใจ แต่เราดันวางแพลนผิดเลยไม่มีเวลาพอ ถ้าใครคิดจะไปเมืองนี้ก็ควรต้องวางแพลนดีๆค่ะ ไม่งั้นก็อาจจะพลาดแบบเราได้นาจา T_T
สรุปการเดินทางจากนิวเดลีไปอัครา
- ถ้าเหมารถส่วนตัว(แท็กซี่)ไป-กลับ ราคาอยู่ที่ 5000-6000 รูปี หรือ 2500-3000 บาท
- One day trip (รถทัวร์พร้อมไกด์) ไป-กลับ ราคาอยู่ที่ประมาณ 2000-3000 รูปี หรือ 1000-1500 บาท/ต่อคน
- รถไฟ คนละ 500 กว่ารูปี ไปกลับก็คน 1000+ รูปี หรือ 500 กว่าบาท แต่ใช้เวลาเปนวัน ถ้าไม่คิดจะสัมผัสความอินเดียจริงๆ จุดนี้เสียเวลามากๆค่ะ ถ้าใครมีเวลาก็โอเค แต่ถ้าใครไม่ได้มีเวลามากหรือไม่คิดจะค้างคืน ไปวันเดย์ทริปหรือเหมาเท็กซี่ไปเลยจบกว่าค่ะ
สรุปค่าใช้จ่าย (2 คน / 2 วัน 1 คืน )
- ค่าอูเบอร์จากที่พักไปสถานีรถไฟ = 290 บาท
- ค่ารถไฟ 260 × 2คน = 520 บาท
- ค่าแท็กซี่จากสถานีรถไฟไปยังที่พัก = 135 บาท
- ค่าที่พัก 1 คืน = 1,300 บาท
- ค่าอาหาร (บนrooftop) = 1,230 บาท
- ค่าอาหาร (ร้านธรรมดา) = 120 บาท
- ค่าสามล้อไปทัชมาฮาล = 25 บาท
- ค่าเข้าทัชมาฮาล ของเรา (คนไทย) 250 + ของแฟน(ต่างชาติ) 500 = 750 บาท
- ค่าจ้างไกด์ = 180 บาท (ไม่รวมทิป)
- ค่าแท็กซี่ขากลับ = 2,300 บาท
รวม 6,850 บาท
**รูปจากกล้อง sony a5100 (กล้องสด ไม่มีการปรับแต่งอะไรใดๆทั้งสิ้น)